มัสยิดอัลฮะรอม

มัสยิดใหญ่ใจกลางนครมักกะฮ์ที่เป็นสถานที่ตั้งของกะอฺบะฮฺ หรือบัยตุลเลาะฮ์ รวมทั้งบ่อน้ำซัมซัมและมะกอมอิบรอฮีม เป็นมัสยิดที่สำคัญที่สุดของอิสลาม
ก่อนสมัยนบีมุฮัมมัด บริเวณที่ตั้งของสิ่งสำคัญของอิสลามดังกล่าวข้างต้นนั้นกถือเป็นศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมักกะฮ์ บริเวณรอบสถานที่เหหล่านี้เป็นที่เปิดโล่ง พื้นเป็นทรายและไม่มีการกั้นรั้วกำหนดเขตเป็นที่แน่ชัด ในปี ฮ.ศ.8 ท่านนบีมุฮัมมัดใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ละหมาด ต่อมาเมื่อมีมุสลิมเพิ่มขึ้น สถานที่แหงนี้ก็เล็กลงตามกาลเวลาและจำนวนมุสลิมที่เพิ่ม จนกระทั้งมาถึงสมัยคอลีฟะฮ์อุมัรและอุษมาน บ้านของประชาชนที่อยู่รอบบริเวณศาสนสถานสำคัญแห่งนี้จึงถูกสั่งรื้อถอนและได้มีการสร้างกำแพงกั้นบริเวณขึ้น หลังจากนั้นก็มีการขยายพื้นที่และก่อสร้างส่วนต่างๆ ในสมัยของผู้ปกครองอาณาจักรอิสลามคนต่อๆมา เช่น การปูพื้นหินอ่อนลานเวียนรอบกะอ์บะฮ์ การปูพื้นและการสร้างหลังคาเหนือทางเดินสะแอ ระหว่างเนินเขาซอฟาและมัรวะฮ์ การสร้างหอสูงรอบเขตรั้วกั้นบริเวณ การติดตั้งเครื่องดูดน้ำและเครื่องทำความเย็นน้ำซัมซัมเพื่อเลี้ยงคนที่ไปปฏิบัติศาสนกิจ เป็นต้น การบูรณะมัสยิดอัลฮะรอมมีขึ้นเป็นครั้งแรกโดยคอลีฟะฮฺอุมัร อิบนุล คอฏฏอบ ใน ฮ.ศ.17 ต่อมาโดยคอลีฟะฮฺอุษมาน อิบนุ อัฟฟาน ใน ฮ.ศ.26 โดยอัซซุเบรฺ ใน ฮ.ศ.65 โดยฮัจญาจ บิน ยูซุฟ อัษษะกอฟี ใน ฮ.ศ.74 โดยอบูญัฟฟารฺ อัลมันซูรฺ อัลอับบาซี ใน ฮ.ศ.137 โดยมุฮัมมัด อัลมะฮ์ดี อัลอับบาซี ใน ฮ.ศ.161 และ 164 ในระหว่างที่พวกราชวงศ์มัมลู้กแห่งอียิปต์มีอำนาจ (ฮ.ศ.802) ตัวอาคารมัสยิดอัลฮะรอมได้ถูกไฟไหม้และได้ถูกซ่อมแซมโดยเจ้าชายบัยซักซอฮีรี หลังจาก ฮ.ศ.979 เป็นต้นมา มุสลิมชาวเติร์ก ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำชาติอิสลาม จึงได้มีการขยายบริเวณมัสยิดอัลฮะรอมให้กว้างออกไปอีก โดยเฉพาะในสมัยของสุลต่านซาลิม ซึ่งทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อบูรณะครั้งใหญ่ใน ฮ.ศ.980 และ ฮ.ศ.984 ในสมัยราชวงศ์ซาอุดี มัสยิดอัลฮะรอมได้รับการบูรณะและขยายพื้นที่อีกครั้งหนึ่งจนในปัจจุบันเนื้อที่ของมัสยิดอัลฮะรอมมีพ้นที่ถึง 160,168 ตารางเมตร สามารถจุคนได้ถึง 300,000 คน
ประเทศซาอุดีฯอยู่บริเวณคตาบสมุทรอาหรับทวีปเอเชียตะวันตกเฉียงใต้(ตะวันออกกลาง)ซึ่งในประเทศแห่งนี้มีมัสยิดที่สำคัญ2ใน3แห่งของศาสนาอิสลามคือมัสยิดฮารอม เมืองมักะฮ และมัสยิดนะบะวีย์ เมืองมาดีนะฮแต่ก่อนอื่นก็มารู้จักมัสยิดฮารอมกันก่อน
ตามประวัติศาสตร์อิสลามมัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยของท่านนบีอิรอฮีม อะลัยฮิสสลาม แต่ในสมัยก่อนนั้นยังไม่มีข้อบังคับในการไปทำพีธีฮัจญ์หลังจากสิ้นสมัยการเผยแพร่ศาสนาของนบีอิรอฮีมจบลง ชนเผ่าที่มีเชื่อสายมาจากท่านคือชนเผ่ากุเรชเป็นพวกที่ไม่ศรัทธาต่ออัลลอฮแต่กลับไปศรัทธาต่อรูปปั่นจึงได้นำเทวรูปมาตั้งไว้ เวลาผ่านมาจนมาถึงช่วงนบีมุฮัมหมัด ศอลลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมในช่วงที่ท่ากลับมาจากการอพยพที่เมืองมะดีนะฮก็ได้กลับมาพิชิตมักกะฮและได้ทำลายเทวรูปและมีการบังคับสำหลับมุสลิมทุกคนที่มีความสามารถให้ไปประกอบพีธีฮัจญ์ และก็มีการเผยแพร่ศาสนาอิสลามไปทั่คาบสมุทรอาหรับ ทวีปแอฟริกา ทวีปเอเชีย และทวีปยุโรปบางส่วน เช่นประเทศสเปน ตุรกี เป็นต้น
ในสมัยปัจุบันมัสยิดแห่งนี้จึงมีการประกอบพีธีฮัจญ์ทุกๆปีในระหว่างเดือน กันยายน-ธันวาคม และยังมีการประกอบพิธีอุมเราะห์ด้วย นอกจากนี้ในทุกๆปียังมีการเปลียนผ้าคลุมกะบะฮโดยกษัตริย์ของประเทศประเทศซาอุดีอารเบียอีกด้วยเเละที่สำคัญที่สุดคือผู้ใดที่มาทำการละหมาดที่มัสยิดเเห่งนี้จะได้รับผลบุญ50000เท่า ผมก็ขอจบเพียงแค่นี้ก่อนและในครั้งหน้าเราจะมาพบกลับมัสยิดนะบวีย์ด้วย
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น